กลิ่นผีป่าในที่สุดก็ไม่ใช่เรื่อง beo: เรื่องราวแปลกประหลาดในป่าสุดเลือดของประเทศไทย
เมื่อคุณคิดถึงป่าในประเทศไทย คุณอาจนึกถึงทัศนียภาพที่งดงามและบรรยากาศที่สงบเงียบของต้นไม้ร่มรื่น แต่อย่างที่เราทราบกันว่า ในป่าธรรมชาติไม่ได้มีแต่ความสงบเงียบและความงดงามเท่านั้น ยังมีเรื่องราวสุดลึกลับซึ่งเกี่ยวข้องกับภูมิประเทศไทยเอง ซึ่งความลึกลับในป่าสายสัมพันธ์กับเครื่องหมายของสัญชาตญาณกลิ่นก็ให้ความหมายที่น่าสนใจ
ในป่าสุดเลือดของประเทศไทย มีเรื่องราวแปลกประหลาดที่เกี่ยวข้องกับกลิ่นผี หลายคนเคยได้ยินถึงเรื่องราวที่บอกว่า ในป่าของเรามีผีป่า หรือ ‘ผีกินกิน'(Beo) ที่สามารถปลดปล่อยกลิ่นต่างๆ ในป่าออกมาได้ กลิ่นเหล่านี้บางครั้งอาจมีกลิ่นสำหรับคนหนึ่งคนเดียว แต่บางครั้งก็มีกลิ่นที่ทุกคนสามารถรับรู้ได้
กลิ่นผีป่าหลายประเภท แต่สิ่งที่เหล่าผู้พบเคยพูดถึงกันมากที่สุดคือกลิ่นของไม้แก่ที่เนื้อไม้เริ่มเน่าสลายและเกิดกลิ่นเหม็นโดยทั่วไป นั่นเป็นเพราะกลิ่นดังกล่าวเกี่ยวข้องกับกระบวนการสลายของสิ่งมีชีวิตในป่า ถ้าคุณเดินผ่านป่าในช่วงที่เป็นฤดูหนาวเย็น คุณอาจสัมผัสกับกลิ่นของไม้เน่าที่กำลังเกิดขึ้น
นอกจากกลิ่นของไม้เน่า กลิ่นอื่นๆ ที่เชื่อมโยงกับผีป่ามีอีกมากมาย เช่น กลิ่นของทางเดินที่ไม่ค่อยถูกใช้ กลิ่นของดิน กลิ่นของกล้วยไม้ หรือหอมแดงที่เป็นพืชป่าพื้นบ้าน ในบางครั้ง กลิ่นจะมีลักษณะเป็นกลิ่นของซากศพหรือบันทึกหลังการตายของสัตว์ในป่า การสัมผัสกับกลิ่นเหล่านี้อาจสร้างความรู้สึกแปลกประหลาดและขวัญใจให้กับผู้คนที่พบเจอ
แต่สิ่งที่ทำให้กลิ่นผีป่าเป็นเรื่องที่น่าสนใจกว่าทุกอย่าง คือความเชื่อที่ได้รับการสืบทอดต่อมาจากภูมิประเทศไทย ซึ่งมีความเชื่อที่ผูกพันกับศาสนาและวัฒนธรรมเป็นอย่างมาก ในภูมิภาคใต้ของประเทศไทย เชื่อว่ากลิ่นผีป่านั้นสามารถเป็นสัญลักษณ์หรือเครื่องหมายในการปกป้องความเป็นมัจฉาชีพของป่า และสามารถปลดปล่อยความรู้สึกเครียดหรือความตื่นเต้นที่มีต่อสิ่งที่ไม่เป็นธรรมชาติออกไป
กลิ่นผีป่าในที่สุดก็ไม่ใช่เรื่อง beo เพราะว่ามันแทรกแซงความเมาส์ของผู้คนในป่าและนำไปสู่การพบประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร ถ้าคุณเคยได้ยินหรือเห็นการพูดถึงกลิ่นผีป่า อาจจะเป็นโอกาสที่น่าสนใจที่จะสัมผัสกับภูมิประเทศไทยแบบไม่เหมือนใคร
